นายพิษณุ เผยอีกว่า ด้วยภาระที่หนักอึ้ง เพราะที่บ้านมีผู้อยู่อาศัยรวมกัน 6 คน โดยก่อนหน้านี้ ทั้งตนเอง และภรรยา เป็นคนหารายได้มาเลี้ยงครอบครัว กระทั่งภรรยาประสบอุบัติขาหัก ตั้งแต่เดือน เม.ย. 64 ไม่สามารถออกไปทำงานได้ ต้องนอนเป็นผู้ป่วยติดเตียง มิหนำซ้ำยังตรวจเจอเชื้อมะเร็งระยะสุดท้าย กระจายอยู่ทั่วร่างกาย
“เมื่อวาน (26 ก.ค.64) ตนจึงตัดสินได้เดินทางไปที่บริษัท เพื่อทำเรื่องลาออก เพื่อขอรับเงินประกันก้อนสุดท้ายจำนวน 30,000 บาท เพื่อมาใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้รับเงินก้อนนี้เมื่อไหร่ หลังจากนั้นตนก็ได้เดินไปที่ลานจอดรถ และได้ทำการก้มกราบลาแม่ย่านางรถ ซึ่งตลอดระยะเวลา 6-7 ปี ที่ผ่านมา รถคันนี้ทำให้ตนมีเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว เปรียบเสมือนบ้านอีกหลังของตนเอง ซึ่งทำให้ตนรู้สึกใจหายเป็นอย่างมาก ไม่คิดวันหนึ่งต้องมาบอกลารถคันนี้ไป ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กลับมาขับอีกไหม” หนุ่มอดีตโชเฟอร์รถทัวร์ กล่าว